fbpx

ทำอย่างไร ให้เด็กได้วิชาการและกิจกรรมในหัวใจ

ทำอย่างไร ให้เด็กได้วิชาการและกิจกรรมในหัวใจ

ทำอย่างไร ให้เด็กได้วิชาการและกิจกรรมในหัวใจ    

สวัสดีครับ กลับมาพบกับพี่เรสอีกครั้ง และพี่เรส ก็ได้นำเอาบทความดีๆ มาฝากกันอีกเช่นเคยครับ ถ้าว่าไปแล้ว เมื่อก่อนผู้ปกครองหลายท่าน เชื่อว่าการจะเลี้ยงลูกให้ดีมีอนาคต ก็ต้องได้เรียนที่โรงเรียนมีชื่อเสียงไว้ก่อน และเพื่อให้สอบเข้าได้ ก็ต้องติวๆๆ อัดแน่นวิชาการให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้แข่งขันกับคนอื่นๆได้ พาลูกๆ ไปเรียนพิเศษติวเตอร์ ในวันเสาร์อาทิตย์ เรียกกันได้ว่า ไม่มีเวลาว่างกันเลยทีเดียวครับ

ทำอย่างไร ให้เด็กได้วิชาการและกิจกรรมในหัวใจ

พอมาปัจจุบัน สภาพสังคมเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน จากที่เคยมุ่งเน้นแต่กวดวิชา กลับกลายเป็นส่งเสริมด้านกิจกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานร่วมกับผู้อื่น และทำให้สามารถใช้ชีวิตทำงานจริงได้ดีขึ้น  และโรงเรียนหลายๆที่ ก็เปิดโครงการรับเด็ก ที่มีความสามารถพิเศษเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่า การแข่งขันทางด้านวิชาการ ยังคงสูงอยู่ดี

แล้วแบบนี้ จะจัดสมดุลย์อย่างไร ให้มีทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมกันดีล่ะ

วันนี้ พี่เรสก็มีไอเดียง่ายๆมานำเสนอครับ ที่ทำให้ลเด็กๆนั้นได้ทั้งวิชาการพร้อมกับมีกิจกรรมในหัวใจครับ

1.จัดวันเรียนพิเศษ ช่วงเช้า และ กิจกรรมเสริม(ที่เด็กๆชื่นชอบ)ช่วงบ่ายของวันหยุด

วิธีนี้นอกจากจะได้ทั้งเรียน ได้ทั้งเล่นในวันเดียวกันแล้ว ยังเป็นกลไกทางจิตวิทยาการเสริมแรง ทำให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ว่า วันที่มีเรียนพิเศษ จะได้รับรางวัล เป็นเล่นสนุกด้วยและสาเหตุที่ ให้เรียนตอนเช้าเพราะ หากให้เล่นตอนเช้า ตอนบ่าย อาจจะเพลีย และง่วงจนไม่มีสมาธิเรียนก็ได้นะคร้าบ

2.เลือก เรียนพิเศษและกิจกรรมเสริม ผลัดกันครั้งละ1เดือนขึ้นไป ในวันหยุด

วิธีนี้จะให้ประสิทธิภาพดีเนื่องจากการเรียน หรือการทำกิจกรรมนั้น จะมีความต่อเนื่องกว่า ทำให้สามารถซึบซับเนื้อหาการเรียน หรือฝึกฝนทักษะต่างๆได้อย่างเต็มที่ แถมทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นเช่นกิจกรรมประเภทออกค่ายค้างคืน ก็สามารถทำได้หากจัดเวลาตามนี้

  1. เลือกเรียนในกิจกรรมที่ให้การฝึกฝนทักษะและด้านวิชาการไปพร้อมๆกัน

ฟังดูเหลือเชื่อ แต่ก็มีอยู่จริงครับ นั่นก็คือ เรสจีเนียสสคูล โรงเรียนสอนต่อหุ่นยนต์ ที่จะให้น้องๆได้ฝึกฝนทักษะการคิดวิเคราะห์ จินตนาการ มิติสัมพันธ์ และด้านสังคม จากการต่อหุ่นยนต์ และนำผลงานมาเล่นกับเพื่อนๆร่วมชั้นเรียน

และขณะเดียวกัน เลโก้ที่เรสจีเนียสสคูล ก็เป็นรุ่น Mindstrom และ Ev3 ซึ่งมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ และมอเตอร์ ทำให้ผลงานของน้องๆ จำเป็นต้องใช้ทั้งด้านโปรแกรมมิ่ง ด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ในการจะทำให้ผลงานสามารถเคลื่อนไหวได้

และด้วยส่วนผสมดังกล่าวนี่เอง จึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับผู้ปกครองท่านใด ที่กำลังมองหาสถาบันฝึกสอน ทั้งด้านทักษะและวิชาการครับผม

หากผู้ปกครองท่านใดไม่แน่ใจ ว่ามันจะยากไปไหม น้องๆจะชอบหรือไม่ เล่นแล้วจะสนุกจริงหรือเปล่า ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะสามารถทดลองเรียนฟรีก่อนได้ตามช่องทางติดต่อด้านล่างนี้เลยครับ และสำหรับวันนี้พี่เรสก็ต้องขอลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

https://www.facebook.com/RaiseGenius/

36176284_1759738140787728_7662709718967648256_n

 

36052203_1759738260787716_1994140946026987520_n

 

36176407_1759738067454402_5779312700781756416_n

About The Author

num raise
ความอดทน ฝึกอย่างไรจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ จริงหรือไม่