ใบไม้เสมือนจริง ที่ไม่ใช่ของจริง
ใบไม้เสมือนจริง ที่ไม่ใช่ของจริง
สวัสดีครับน้องๆ วันนี้ก็พบกับพี่เรส เช่นเคยนะครับ และแน่นอนว่า ถ้าพี่เรสพูดแบบนี้ ก็ต้องมีสาระดีๆ ความรู้ใหม่ๆ มาฝากน้องๆ กันล่ะครับ เรื่องราวที่น่าสนใจในวันนี้ จะกล่าวถึง เทคโนโลยีกับธรรมชาติ แต่เป็นความสัมพันธ์แบบใด น้องๆ ต้องลองอ่านเองนะครับ
ใบไม้เสมือนจริง ที่ไม่ใช่ของจริง
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า มากไปเท่าใด สภาพแวดล้อม ก็ย่อมเสื่อมโทรมลงเท่านั้น เพราะความเจริญ ย่อมแลกมาด้วยธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตของผู้คน อ่านดูแล้วน้องๆ คิดอย่างไรกันบ้างครับ?
เอ! แต่ก่อนที่น้องๆ จะเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ พี่เรสก็คง ต้องขอเล่าเรื่องราว ที่น่าสนใจ ให้ฟังเสียก่อน จะตัดสินใจนะครับ
ถึงแม้ว่า จะมีปัญหาเรื่อง ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อสร้างโรงงาน ทำลายระบบนิเวศน์ เพื่อสร้างเขื่อน ซึ่งเป็นด้านเสียของนวัตกรรม ที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ว่าก่อนที่จะตัดสินใจ ว่านวัตรกรรมเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งเลวร้าย พี่เรสก็อยากจะแนะนำ นวัตกรรมเพิ่มขึ้น อีกซักเล็กน้อยครับ เพื่อเป็นเหตุผลว่า ถ้ามันไม่ดี มีข้อเสีย แล้วทำไมเรายังต้องสนใจ และพัฒนามันอีก
โดยเรื่องราว ที่พี่เรสจะพูดถึง ในคราวนี้ก็คือ นวัตรกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ Silk leaf ใบไม้วิทยาศาสตร์ ที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของพืช ที่สกัดมาเฉพาะ chloroplasts ผสมผสานกับโปรตีนจากไหม ทำให้ได้ออกมาเป็นใบไม้จริงๆ ซึ่งทำหน้าที่สังเคราะห์แสง และ ผลิตออกซิเจน ได้เช่นเดียวกัน กับใบไม้ ที่อยู่ตามต้นไม้ ในธรรมชาติ และยังเติบโตได้ ในอวกาศที่ไร้แรงโน้มถ่วง (ซึ่งต้นไม้ปกติ ต้นไม้จะไม่สามารถโตได้) จะว่าไปแล้วเรียกได้ว่าเป็น ใบไม้เสมือนจริง เลยนะครับ
โดยผลงานวิจัยชิ้นนี้ เป็นของ Julian Melchiorri นักศึกษาจาก RCA (Royal College of Art) คิดค้นเพื่อ ช่วยวงการอวกาศ ในการหาแหล่งออกซิเจน ทดแทนสำหรับ ช่วยให้มนุษย์เดินทางในอวกาศได้นานมากขึ้น เพราะต้นไม้จริง ไม่สามารถเติบโตได้ ภายใต้สภาวะไร้น้ำหนัก และเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจน ให้กับอากาศที่อยู่โดยรอบ เช่น การทำเป็นโคมไฟภายในบ้าน แผ่นปิดผิวรอบอาคาร ซึ่งนับเป็นนวัตรกรรมใหม่ แห่งอนาคต ที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งครับ
ทำไมเจ้า silk leaf ถึงน่าสนใจ? นั่นก็เพราะ เจ้าใบไม้เล็กๆตัวนี้ เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า นวัตรกรรมยุคใหม่ ส่งผลกระทบ ต่อธรรมชาติ น้อยลงเรื่อยๆ พร้อมกับที่ สามารถสร้างผลดี ให้แก่ผู้คนได้มากขึ้น จากที่แต่ก่อน เราจำเป็น จะต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจน ที่ต้องใช้กำลังไฟฟ้า และวัตถุดิบมากมาย มาปัจจุบัน เราสามารถสร้างนวัตรกรรม ผลิตออกซิเจนเล็กๆ โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าได้แล้ว หรือหากเราลอง มองย้อนกลับไปให้ดี เราก็จะพบว่า นวัตรกรรมที่เกิดขึ้น ในยุคหลังๆนั้น ล้วนแต่เป็นไป ในทิศทางเดียวกัน คือ กระทบธรรมชาติ น้อยลงเรื่อยๆ เช่น นวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า ที่สมัยก่อน เริ่มจากการใช้ถ่านหิน ซึ่งก่อมลพิษมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับกลายเป็นเขื่อน พอมาปัจจุบัน กลับกลายเป็นกังหันลม และแผงโซลาเซลล์ ซึ่งส่งผลกระทบ น้อยลงไปเรื่อยๆ และไม่แน่ว่า วันที่ทุกๆเทคโนโลยี จะเป็นมิตรกับธรรมชาติ อาจจะมาถึงในไม่ช้านี้ ก็ได้นะครับ ^ ^
พี่เรสคิดว่าถ้าหาก ในอนาคตนั้น มีเจ้า silk leaf อยู่มากมาย คงช่วยลดผลกระทบ ที่จะเกิด ต่อธรรมชาติ ได้แน่นอนครับ ไม่แน่นะครับ เราอาจจะมีบ้าน ที่ปกคลุมไปด้วยเจ้า silk leaf ที่ผลิตออกซิเจน ให้เราได้หายใจ ซึ่งเขาได้บอกมาอีกว่า silk leaf ยังสามารถ พัฒนาขึ้นไปได้อีก และกำลังพัฒนา เพื่อให้ทดแทนธรรมชาติ ที่เสียไป และมีผลกระทบต่อธรรมชาติ ให้น้อยลงเช่นกันครับ สำหรับวันนี้ พี่เรสจะขอตัวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Data & pic Retrieve from
:http://www.julianmelchiorri.com/Silk-Leaf
Data retrieve form:
https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1874&catid=49&Itemid=251
Data retrieve form:
http://www.neutron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=1808&Itemid=4
สนใจติดต่อ
clike -> contactus
